top of page
Search

52 presents_EP.6 เชื่อมั้ยว่า อะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เราทุกคนล้วน "เลือกได้"


หลายๆเรื่องที่เข้ามาในชีวิต แล้วทำให้เราเกิดความทุกข์ ความไม่พอใจ บ่อยครั้งที่เราคิดว่า สาเหตุมาจาก คนโน้น คนนี้ สิ่งนั้น สิ่งนี้

ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว หลายๆ คน ก็พยามเลือกที่จะเลี่ยงสาเหตุต่างๆ เหล่านั้น พยายามเลี่ยงคนๆนั้น เลี่ยงสถานที่นั้นๆ ถ้าเลือกได้ก็ดีไป ถ้าเลือกไม่ได้ ก็อดที่จะหงุดหงิด ทดท้อ เซ็งจิต ไม่ได้ ว่าทำไมฉันต้องมาเจอคนๆ นี้ ที่แบบนี้ ด้วยนะ

แล้วถ้าคนที่มักทำให้เราหงุดหงิด กลับเป็นคนใกล้ตัวเราด้วยแล้ว เช่น เพื่อนที่ทำงาน เจ้านาย ลูกน้อง สามี ภรรยา ลูก คุณพ่อ คุณแม่ อย่างนี้เราจะเลี่ยงอย่างไรไหวหล่ะเนี่ย

เคยคุยกับคุณแม่ท่านนึง มีลูกชาย ที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนต้น เธอบ่น ทดท้อ ทอดถอนใจ ว่า เฮ้อ ไม่อยากเจอหน้าลูกเลย เจอทีไร อดทะเลาะกันไม่ได้ ยิ่งเสาร์อาทิตย์ด้วยแล้ว เป็นต้องมีเรื่อง มีปากเสียงกัน โตมาแล้วทำไมเป็นอย่างนี้เนี่ย ให้ทำอะไรก็ไม่ทำ แถมเถียง ฉอดๆ

ฟังดูแล้วเป็นอย่างไร ดูเผินๆ ก็คิดว่า เป็นเพราะพฤติกรรมของลูกชาย ที่ทำให้แม่ต้องหงุดหงิดใช่มั้ย

เลยชวนให้ คุณแม่ท่านนั้น รวมทั้งผู้อ่าน ลองคิดอย่างนี้ดู ลองคิดว่า เราเอาลูกชาย ไปฝากไว้ที่บ้านเพื่อนสักพัก แล้วลูกเรา ก็ทำพฤติกรรมแบบที่ทำกับเราเลย หมายถึงพฤติกรรมที่เป็นต้นเหตุ ให้เราต้อง บ่น ต้องมีปากเสียงกับเค้า

เช่น ไม่ยอมอ่านหนังสือ กินข้าวแล้วไม่เก็บจาน เปิดตู้แล้วลืมปิด แต่เปลี่ยนจากทำกับเรา ที่บ้านเรา เป็นไปทำกับเพื่อนเรา ที่บ้านเพื่อนเราแทน

คุณคิดว่า เพื่อนเราจะรู้สึกหงุดหงิดเหมือนเรามั้ย คำตอบส่วนใหญ่ที่ได้ก็คือ คงไม่หงุดหงิดเท่าเราหรอก เพราะไม่ใช่ลูกเค้านี่

อย่างนี้แล้ว พฤติกรรมเดิม จากคนเดิม แต่ก็ไม่ได้ทำให้เพื่อนเราหงุดหงิดเท่าเรา เท่ากับว่า ความหงุดหงิดนั้น เป็นเพราะเรา หรือเป็นเพราะลูกเรากันแน่

ถ้าเป็นเพราะลูกเรา ไม่ว่าเค้าไปทำอย่างนี้กับใคร คนนั้น ก็ต้องหงุดหงิด ร้องรู้สึกแย่ เหมือนๆ กัน

ไม่แปลกเลยที่คนเป็นแม่จะรู้สึก เช่นนี้ เพราะมีทั้งความรัก ความห่วงใย ความคาดหวัง ต่างๆ นาๆ ที่เราให้กับลูก

ไม่ใช่แค่กับความสัมพันธ์ ระหว่าง แม่กับลูกนะ ความสัมพันธ์ต่างๆ กับคนใกล้ตัวก็เช่นกัน ที่เรามักจะใส่น้ำหนัก "ความคาดหวัง" มากกว่าคนทั่วๆไป

เมื่อรู้แล้ว เมื่อยอมรับแล้ว ว่าสาเหตุ เกิดจาก "ตัวเรา" ทีนี้ ก็ไม่ยากแล้ว เราก็ต้องเริ่มแก้ที่ตัวเรานั่นเอง

ก่อนไปต่อ อยากชวนให้ทุกท่านมีความเชื่อ ความเชื่อที่ว่า เราทุกคน มีทางเลือก เสมอ

ไม่ว่าในสถานะใด สถานะการณ์ใดๆ เราทุกคนล้วนสามารถเลือกได้เสมอ

เราทุกคน สามารถ เลือกได้ ที่จะตอบรับต่อเหตุการณ์นั้นๆ อย่างไร เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมา ไม่ทำให้เรา หรือเค้า เกิดความทุกข์ขึ้น

บางท่านอาจคิดว่า ในบางสถานการณ์ มันไม่มีทางเลือกจริงๆ

ถ้างั้นลองมาดูเหตุการณ์ ที่เหมือนจะไม่มีทางเลือกใดๆเลย แล้วกัน

อย่างเช่น กรณี นักโทษประหาร ที่ต้องโดนประหารในวันพรุ่งนี้แล้ว ฟังดูแล้ว เหมือนจะไม่มีทางเลือกใดๆ เลยใช่มั้ย

จริงๆ แล้ว เรากับนักโทษประหาร ก็แทบไม่ต่างกันเลย เราล้วนต้องตาย เพียงแต่ว่า เราไม่รู้แน่ชัดเท่านักโทษประหาร ก็แค่นั้นเอง

กลับมาเรื่องทางเลือก ที่เหมือนนักโทษประหารจะไม่มีเอาเสียเลย อยากชวนคิดกันดูนิดนึงว่า จริงๆ แล้ว เค้าไม่มีทางเลือกเลย จริงหรือไม่

...

เค้าเลือกได้ ว่าจะร้องไห้ฟูมฟายทั้งคืน หรือจะยอมรับความจริงของมนุษย์ ที่คนเราเกิดมาแล้วล้วนต้องตาย

ระหว่างคนที่ร้องไห้ฟูมฟาย รับไม่ได้กับความตาย กับคนที่ยอมรับความจริง จิตสุดท้าย ก่อนหมดลมหายใจของใครที่จะมีคุณภาพกว่ากัน

บางครั้งจิตสุดท้ายของนักโทษประหารที่ยอมรับความจริง กับจิตดวงสุดท้ายของมหาเศรษฐีที่มีแต่ความโลภ ความไม่พอ จิตสุดท้ายของนักโทษประหาร ดูจะมีคุณภาพกว่ามหาเศรษฐีเสียอีก

เมื่อคุณรับรู้ถึงพลังอำนาจแห่งการเลือกได้ของเราๆ กันแล้ว อยากให้ทุกท่านลองใช้ พลังนี้ ในการเปลี่ยนแปลงชีวิต กันดู

ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ใดๆ เข้ามา ลองระลึกถึงพลังนี้ แล้วเลือกที่จะตอบสนองต่อเหตุการณ์นั้นๆ อย่างไร เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมา ดีต่อทั้งตัวท่านเอง และผู้อื่น เป็นดวงจิตที่มีคุณภาพ

กลับไปที่กรณี คุณแม่ หากเจอพฤติกรรมเดิมๆ ที่ลูกเราทำให้เราไม่พอใจ แล้วเรากำลังจะอ้าปาก พูดสิ่งเดิมๆ ออกไป ให้หยุด และถามตัวเองสักนิดว่า เราอยากจะมีปากเสียงกับเค้าแบบเดิมๆ อีกเหรอ เรายังอยากจะให้บรรยากาศในบ้านมืดครึ้ม อีกเหรอ เราอยากจะรู้สึกไม่สบายใจ และอยากให้ลูกเราเศร้าหมองอีกเหรอ

เมื่อคิดได้แล้ว ลองทำอะไรที่ต่างออกไป ทำอะไรที่จะไม่ให้เกิด เหตุการณ์ หรือบรรยากาศที่เราไม่ชอบ

ส่วนจะต้องทำอย่างไรนั้น ต้องลองหาคำตอบด้วยตัวท่านเอง

ครั้งแรกอาจไม่ได้ผลตามที่เราคาดหวัง แต่ลองดูมวล อารมณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร ดีกว่าเดิมมั้ย

ลองดูนะ

เปลี่ยนที่เรา เบาที่สุด

เป็นกำลังใจให้ทุกท่าน......



6 views0 comments

Comments


bottom of page